ขายฝากบ้านที่ดิน
ขายฝากบ้านที่ดิน เป้าหมายการจำนองแล้วก็ขายฝากที่ต่างกัน จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน อาจจะมีคนที่เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ผู้คนจำนวนมากที่นำอสังหาริมทรัพย์พวกนั้นมาจำนองแล้วก็ขายฝากเพื่อนำไปใช้จ่ายหรือลงทุนทำการค้าต่างๆ โดยจุดหมายสำหรับการลงนามทั้งยัง 2 แบบก็แตกต่าง ดังนี้ สัญญาจำนองเป็นข้อตกลงที่ลูกหนี้ไม่ต้องโอนทรัพย์สินไปอยู่ในมือเจ้าหนี้
ข้อตกลงขายฝากเป็นข้อตกลงที่ลูกหนี้จำเป็นต้องโอนทรัพย์สินไปอยู่ในมือเจ้าหนี้ สำหรับเพื่อการทำความตกลงจำเป็นจะต้องทำต่อหน้าเจ้าหน้าที่พนักงาน ณ กรมที่ดินเท่านั้น ส่วนในเรื่องของระยะ เวลาสำหรับในการลงนามนั้น คำสัญญาจำนำจะตกลงทำเวลาที่จะใช้หนี้คืน พร้อมสินไถ่
จากที่ตกลงกันส่วนคำสัญญาขายฝากจะตกลงทำเวลาที่จะจ่ายและชำระหนี้คืน พร้อมสินไถ่ จากที่ตกลงกัน แต่ต้องไม่เกิน 10 ปี ในกรณีทำผิดสัญญาข้อตกลงจำนอง เมื่อครบคำสัญญาแล้ว สามารถจ่ายดอก เพื่อต่อเวลาได้อีกไม่เกิน 5 ปี หรือผู้รับจำนำจะฟ้องร้องคดีเพื่อบังคับจำนอง
แล้วให้กองบังคับคดีประมูลขาย เพื่อนำเงินมาใช้หนี้ ซึ่งระหว่างที่โดนฟ้องบังคับจำนอง ที่ดินนั้นๆจะไม่สามารถนำมาขายเองได้ ส่วนสัญญาขายฝาก ลูกหนี้จำเป็นต้องมาไถ่ข้างในตั้งเวลาที่ตกลงกันไว้ในคำสัญญา ถ้าเกิดเลยกำหนดเวลา โดยชอบด้วยกฎหมายสามารถขยายเวลาขายฝากได้
กี่ครั้งก็ได้ ครั้งละนานเท่าใดก็ได้ แต่รวมกันแล้วจะต้องไม่เกิน 10 ปี ส่วนในเรื่องวงเงินขายฝาก จำนำนั้น ก็จะต่างกัน ดังต่อไปนี้ สัญญาจำนองจำนวนมากจะได้วงเงินราว 30% ของราคาประเมิน ส่วนข้อตกลงขายฝากจะได้วงเงิน 40-70% ของราคาประเมิน
จากข้อความสำคัญความไม่เหมือนของการตกลงทั้ง 2 แบบ น่าจะทำให้ท่านผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์วินิจฉัยในได้ว่าจะเลือกที่จะลงลายลักษณ์อักษรแบบไหนให้ตรงตามจุดมุ่งหมายที่ต้องการและก็สุดท้ายก็สามารถไถ่คืนได้ตามข้อตกลง
จำนำและก็ขายฝากต่างกันอย่างไรในโลกปัจจุบันที่ทุกคนต่างก็มีค่าใช้จ่ายหรือภาระต่างๆมากมายก่ายกองทำให้บางคนที่มีอสังหาริมทรัพย์ต้องการที่จะนำไปจำนำหรือขายฝากกัน แต่ว่าก็มีหลายคนไม่รู้ถึงความต่างแล้วก็ความหมายของ 2 คำนี้ดี จึงเลือกผิดว่าจะนำอสังหาริมทรัพย์ของตัวเองไปจำนอง
หรือขายฝากดี วันนี้พวกเราหาคำตอบมาให้ ขายฝากเป็นวิธีการทำนิติกรรมการค้าขายที่กรรมสิทธิ์ในเงินจะเป็นของผู้รับซื้อฝากในทันที แม้กระนั้นให้โอกาสให้ผู้ที่ขายสามารถนำเงินมาไถ่คืนทรัพย์สินของตนเองได้ภายในช่วงระยะเวลาที่ระบุ โดยในส่วนของผู้ที่เป็นฝ่ายรับซื้อฝากนั้น
ก็จะมีสิทธิที่กำลังจะได้รับผลตอบแทนทดแทนจากแนวทางการขายฝากสูงสุดถึง 15% ต่อปี หรือ 1.25 % ต่อเดือนรวมทั้งได้รับเงินจากแนวทางการขายฝากคืนโดยทันทีหากมีการไถ่ถอนเกิดขึ้น จำนำ คือ แนวทางการทำนิติกรรมเพื่อเป็นการประกันการชำระหนี้แก่ผู้รับจำนำ
โดยสินทรัพย์จะยังไม่กลายเป็นเจ้าของของผู้รับจำนำทันทีทันใด หากผิดนัดใช้หนี้ควรจะมีการร้องทุกข์บังคับคดีให้ทางศาลยึดทรัพย์สินก่อน จากคำนิยามของการขายฝากและการจำนองพวกเราจะมีความคิดเห็นว่า คุณลักษณะเด่นแนวทางการขายฝาก
โดยรวมถือว่ามีจุดเด่นมากยิ่งกว่าการจำนองอีกทั้งในส่วนของผู้ขายฝากแล้วก็คนรับซื้อฝาก โดยในส่วนคนรับซื้อฝาก จะเห็นว่าได้รับเงินทองมาโดยตรง ไม่ต้องฟ้องร้องเมื่อผิดนัดชำระหนี้ ส่วนของคนขายฝาก ก็ยังมีโอกาสที่กำลังจะได้รับวงจากเงินขายฝากที่สูงกว่าหรือตามที่ตกลงกันระหว่างผู้ขายฝากและคนรับซื้อฝาก
และก็ยังสามารถไถ่คืนคืนได้ถ้าอยาก แม้กระนั้น ไม่ว่าคุณจะนำสินทรัพย์ของคุณไปขายฝากหรือจำนำ คุณก็จำต้องพิเคราะห์ต้นสายปลายเหตุต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันหรือคนที่รับทรัพย์สินของคุณนั้นมีความน่าวางใจมากน้อยแค่ไหน เพื่อที่คุณจะไม่เสียเงินเสียทองสินของคุณไปอย่างไม่ชอบธรรม
อย่าปล่อยที่ดินให้รกร้าง กับอัตราภาษีที่ดินใหม่ จากการที่มีการปรับอัตราภาษีที่ดินใหม่ขึ้น สิ่งที่น่ากังวลรวมทั้งได้รับผลกระทบมากมายกับอัตราภาษีฉบับนี้ก็คือ ผู้เป็นเจ้าของที่ดินเปล่า ที่ดินรกร้างที่ไม่มีการใช้ประโยชน์อันใดเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ดินที่ปล่อยทิ้งไว้นานมากกว่า 3 ปีขึ้นไป
จากเป้าหมายของการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งก่อสร้างใหม่ที่ต้องการให้มีการกระจัดกระจายการถือสิทธิ์ที่ดินให้ทั่วถึงมากเพิ่มขึ้น ทำให้มีการจัดเก็บภาษีที่ดินรกร้างว่างเปล่ามีเพดานภาษีได้ไม่เกิน 1.2 ซึ่งใน 2 ปีแรกในการจัดเก็บภาษีที่ดินรวมทั้งสิ่งก่อสร้างที่ถูกทิ้งไว้รกร้างว่างเปล่าหรือเปล่าได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ
ตามพ.ร.บ. ให้ใช้อัตราภาษีตามค่าของฐานภาษีดังต่อไปนี้ ที่ดินไม่ ถ้าที่ดินมิได้ใช้ทำประโยชน์ต่อเนื่องกันตรงเวลา 3 ปีขึ้นไป ในปีที่ 4 จะถูกเก็บภาษีเพิ่มเติมอีก 0.3% และถูกเก็บเพิ่ม 0.3% ทุกๆ3 ปี ไปเรื่อยโดยที่เพดานสูงสุดจะขยับจาก 1.2 % เป็น 3% ด้วยเหตุนี้
แม้พวกเราปล่อยให้ที่ดินรกร้างเป็นระยะเวลาที่ยาวนานๆก็จะยิ่งทำให้อัตราการชำระภาษีทบตัวสูงมากขึ้นไปเรื่อย0.3% ทุกๆ3 ปี ไปจนถึง 3.0% ที่เป็นเพดานสูงสุด ดังนั้น ถ้าเกิดไม่ต้องการจ่ายค่าภาษีที่ดินไม่จำนวนมาก โดยไร้ประโยชน์ก็ควรจะทำที่ดินนั่นๆให้เป็นประโยชน์
ไม่ว่าจะเป็นการปลูกที่พักอาศัยหรือทําการกสิกรรม ดังนี้เราบางทีอาจปล่อยให้เกษตรกรเช่าที่ดินเพื่อทำรับประทานก็ได้ สำหรับคนที่ไม่ได้อยากลงทุนลงแรงเองมากเท่าไรนัก อย่างต่ำก็ไม่ต้องสูญเงินเยอะมากไปโดยเปล่าประโยชน์
ที่ดินไม่ การเลือก “ที่ดินไม่”
เพื่อใช้สำหรับการลงทุน เพราะเหตุว่าราคาที่ดินในกรุงเทพฯ จะแพงสูงขึ้นทุกวัน ยิ่งในขณะนี้ เนื่องจากว่าจะขึ้นกับสาเหตุหลายประเภท ทั้งสภาพเศรษฐกิจ สังคม รวมทั้งรูปแบบการดำเนินชีวิตของมนุษย์ที่เปลี่ยนไป รวมทั้งภาษีเเละกฎข้อบังคับของรัฐ
ที่เข้ามาเกี่ยวเนื่องด้วยอีกหลายประการ ผู้ใดกันแน่ที่คิดจะลงทุนในที่ดินไม่อาจจะเริ่มต้นมีความคิดที่ยังไม่มั่นใจ เเละมีความรู้สึกว่าไม่ง่ายเสมือนเเต่ก่อนเสียแล้ว การลงทุนไม่ว่าจะรูปแบบไหนก็มีการเสี่ยงด้วยกันทั้งหมด ขึ้นอยู่กับว่าเรารอบคอบ และมีความรู้และความเข้าใจมากเเค่ไหน การลงทุนในที่ดินเปล่า นอกเหนือจากที่จะเลือกได้อย่างถูกที่ถูกเวลาและราคาไม่เเพงแล้ว ที่ดินที่เลือกจำเป็นต้องทำเงิน ได้กำไรในระยะเวลาสั้นๆด้วย
1.เลือกที่ดินเฉพาะที่อยู่ในหรือใกล้ชุมชนเพียงแค่นั้น
2.ซื้อเมื่อเเน่จิตใจว่าจะได้โอกาสได้กำไรได้แค่นั้น
3.ลักษณะที่ดินเเละภาวะเเวดล้อมจำเป็นต้องสนับสนุนการใช้ประโยชน์
4.จะต้องเป็นที่ดินติดถนนหนทางหรือมีทางเข้าออกของตัวเอง
5.เน้นลงทุนที่ดินในพื้นที่หรือโซนที่มีซัพพลายที่ดินจำกัด
6.เลือกที่ดินแปลงไม่ใหญ่หรือเล็กกระทั่งเหลือเกิน
7.พิเคราะห์ดูรูปร่างเเละรูปทรงที่ดิน
8.ลงทุนโดยอาศัยสินเชื่อที่พักอาศัยช่วย
9.ตรวจเช็กที่ดินทุกหนก่อนซื้อ ใจความสำคัญที่ควรตรวจทานก่อนซื้อคือ
- พิจารณาหลักเขต+ภาระผูกพัน (สำนักงานที่ดิน)
- สีแปลนเมือง+ข้อกำหนดห้ามก่อสร้าง (สำนักงานโยธาฯ รวมทั้งสำนักผังเมือง)
- เเนวเวนคืน (การทางพิเศษฯ และก็กรมทางหลวง)
- เขตวิทยุสำหรับติดต่อสื่อสารการบิน (สำนักงานการบินข้าราชการฯ)
- เเนวเดินสายกระแสไฟฟ้าเเรงสูง (การไฟฟ้าฯ)
โฉนดแลกเงิน โฉนดที่ดิน เป็นเงินทองอย่างหนึ่งที่แสดงให้รู้ว่าผู้ที่มีชื่อระบุอยู่ในโฉนดเป็นผู้ที่เป็นเจ้าของเจ้าของในที่ดินแปลงนั้น แล้วก็สามารถที่นำไปทำนิติกรรมรับประกันเงินกู้ยืมได้ หรือแม้กระทั้งการนำไปรับประกันตัวผู้ต้องหาทั้งในศาล หรือในสถานีตำรวจได้
แต่ควรมีการคิดราคาประเมินก่อน โฉนดสามารถที่จะซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ หรือโอนกรรมสิทธิ์ได้ รวมทั้งสามารถให้เป็นมรดกแก่บุตรหลานก็ได้ โฉนดแลกเงิน จำนอง ขายฝาก บ้านแล้วก็ที่ดิน
1. การจำนอง ขายฝาก ไถ่ถอน เพิ่มวงเงิน โฉนดที่ดิน โฉนดแลกเงิน
2. เพื่อเงินทุนหมุนเวียนธุรกิจ ปิดหนี้สินบัตรเครดิต ปิดหนี้สินอื่นๆรวมเป็นหนี้ก้อนเดียว
3. ส่งทางเดียว ลดต้นลดดอกอนุมัติเร็ว ไม่เช็คกางล็คลิส อายุมาก ติดแบงค์ รับเงินข้างใน 1-2 วันทำการ
4. พื้นที่บริการ ให้บริการทั่วราชอาณาจักร
5. ชำระดอกเป็นรายเดือน โดยจ่ายผ่านบัญชีธนาคารเท่านั้น
6. ผ่อนลดต้นลดดอก สูงสุด 10 ปี
7. อัตราดอกเบี้ยเริ่ม 1.25% ต่อเดือน หรือ 15% ต่อปี
8. ลงนามที่ที่ทำการที่ดินเพียงแค่นั้นการผ่อนจ่าย มีด้วยกัน 2 แบบ
1. การคลายจ่าย สามารถชำระโดยจ่ายดอกเบี้ยมาก่อน รวมทั้งนำเงินต้นมาจ่ายบางส่วนเพื่อลดดอกเบี้ย โดยดอกจะคำนวณตามเงินต้นที่เหลือ จะสามารถลดเงินต้นและดอกเบี้ยได้
2. จ่ายทั้งเงินต้นรวมทั้งดอกพร้อม ช่วงเวลา 60 งวด 5 ปี กรณีขายฝาก ต่อสัญญาสูงสุด 10 ปี กรณีจำนำ มิได้ระบุช่วงเวลาจวบจนกระทั่งลูกค้าจะไถ่คืนเงินต้นออกไป ผู้ที่ปรารถนาใช้บริการควรเป็นคนที่บรรลุนิติภาวะแล้วเท่านั้น และไม่เป็นบุคคลที่มีสติสัมปชัญญะเลอะเลือน มีเอกสารประจำตัวครบ มีบัญชีธนาคาร มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง
สินทรัพย์ติดจำนำขายฝากขายได้ไหม บ้านติดขายฝาก หรือบ้านติดจำนองอยู่ กับผู้ลงทุนจะขายให้คนอื่นได้ไหม ปริศนานี้พบหลายครั้ง ถือโอกาสเขียนเนื้อหาของบทความนี้ ผู้ที่เกี่ยวข้องจะได้ทำนิติกรรมได้อย่างมีความสุข บ้านติดขายฝากหรือบ้านติดจำนำ อยู่ก็สามารถขายได้โดยดำเนินงานตามนี้
กรณีบ้านติดขายฝากอยู่ ถ้ายังอยู่ในกำหนดเวลาไถ่คืนสินทรัพย์ ก่อนทำความตกลงขายฝาก จะต้องเข้าใจกำหนดเวลาไถ่ถอนคนขายอยากได้ขายบ้านนั้น ก็จำต้องนัดผู้รับซื้อฝากไปกระทำการไถ่คืนแนวทางการขายฝาก โดยจำต้องจ่ายหนี้หรือสินไถ่คืนให้แก่คนรับซื้อฝากเงินส่วนเกินที่ขายได้คนขาย
ส่วนกรณีไม่ทันเวลาคำสัญญาขายฝากไปแล้ว กรรมสิทธิ์ย่อมตกเป็นของคนรับขายฝากโดยเด็ดขาดคนขายฝากจึงไม่อาจจะขายสมบัติพัสถานนี้ต่อได้จ้ะ ส่วนกรณีบ้านที่ติดจำนองกับเจ้าหนี้อยู่ ก็นัดหมายเจ้าหนี้ผู้รับจำนำไปไถ่ถอนจำนำที่ที่ทำการที่ดิน
โดยแจ้งแก่ผู้รับจำนำว่าจะขายบ้านรวมทั้งจะนำเงินเล็กน้อยมาใช้หนี้เงินส่วนเกินที่เหลือจากการใช้หนี้ผู้ขายก็รับไป เมื่อขายบ้านที่ดินได้ หากผู้จะซื้อมีเงินสดก็นัดไปโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดินกันเลย ถ้าผู้ซื้อต้องขอสินเชื่อก็จะต้องให้เวลาผู้จะซื้อไปจัดการขอสินเชื่อกับทางธนาคารก่อน
เมื่อผู้จะซื้อทรัพย์สมบัติที่ติดจำนอง ซื้อด้วยเงินสดหรือเงินกู้ยืมจากแบงค์ก็ตาม ก็ให้แบ่งเงินค่าซื้อที่ดินโดยทำเป็นแคชเชียร์เช็ค ๒ ฉบับ ฉบับหนึ่งไว้จ่ายเป็นค่าไถ่ทรัพย์สินคืนหรือไถ่คืนจำนำบ้านที่ดินกับเจ้าหนี้ ส่วนอีกฉบับที่เหลือก็จะเป็นของผู้จะขาย
เพราะฉะนั้นในวันนัดไปขึ้นทะเบียน ณ ที่ทำการที่ดิน จะทำนิติกรรม 3 เรื่องดังนี้ ขึ้นทะเบียนไถ่ถอนจำนำหรือไถ่คืนขายฝากลงทะเบียนขายที่ดินพร้อมสิ่งก่อสร้างขึ้นทะเบียน ธนาคารที่ รับไถ่ถอน ขายฝาก จำนองที่ดินกรณีขอสินเชื่อ ข้อ 2 หรือ 3 จะยื่นลงทะเบียนพร้อมกันรวมทั้งเสร็จพร้อม เมื่อขึ้นทะเบียนเสร็จก็ชำระแคชเชียร์เช็คหรือเงินสด แจกโฉนด เป็นอันเสร็จเรียบร้อยสิ้นขั้นตอนการ
ไถ่ถอนจากแบงค์ การไถ่คืนถอนการจำนำเมื่อผ่อนชำระบ้าน คอนโด ฯ หรือที่ดินหมดแล้ว ให้ผู้กู้แจ้งต่อแบงค์ที่ยื่นกู้ในทันที ว่ามีความมุ่งมาดปรารถนาที่จะไถ่ถอนทรัพย์สินนั้น แบงค์ก็จะใช้เวลาปฏิบัติงานอีกราวๆสักระยะ แม้กระนั้นปกติก็จะอยู่ที่ราว 1-2 อาทิตย์ หรือมากยิ่งกว่า
แบงค์จะเบิกโฉนด และก็ ทำหนังสือให้อำนาจการโอนคืนให้แก่ลูกค้า ลูกค้า หรือผู้ต้องการไถ่คืนเตรียมบัตรประจำตัวประชาชน + ทะเบียนบ้าน ตัวจริง และก็ สำเนา 1 ชุด มีค่าจารีต 160 บาท (ห้องขนาด 28 ตรม.) จำเป็นต้องไปจัดการที่ที่ทำการที่ดินเพื่อการเขียนทะเบียนไถ่ถอนจากจำนำ ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1 จุดบริการ จนท. โฆษณา พลเมืองยื่นคำขอ เจ้าหน้าที่วิเคราะห์เอกสาร แจกบัตรคิว แล้วก็ลงบัญชีกระทำใช้เวลาประมาณ 5นาที คอยสืบสวนเฉลี่ยคร่าวๆ 25 นาที
2 จุดบริการ จนท.ไต่สวน รับคำขอและเริ่มการไต่สวน พร้อมตรวจดูสารบบ รวมทั้งหนังสือแสดงเจ้าของในที่ดิน คำนวณค่าธรรมเนียมใช้เวลาราวๆ 5นาที เพื่อการค้นหาในสารบบ
3 จุดบริการ จนท.การคลัง พิมพ์ใบเสร็จรับเงินและก็รับเงินค่าธรรมเนียมใช้เวลาอีกโดยประมาณ 5นาที
4 เจ้าหน้าที่กองหลัง แก้สารบัญทะเบียนเพื่อให้อัพเดท ใช้เวลาโดยประมาณ 10นาที จนท.ลงทะเบียน ลงนามจดทะเบียนและก็ประทับตราการปรับแก้ แจกหนังสือแสดงสิทธ์ในที่ดินและก็ข้อตกลง ให้ผู้ขอไถ่ถอน ใช้เวลาโดยประมาณ 5นาที สรุปการจัดการใน 4 ขั้นตอน
รวมทั้ง 3 จุดบริการ รวมช่วงเวลาที่ใช้ไปประมาณ 55 นาที หรือ 1 ชั่วโมง ถ้าไปในช่วงเวลาเช้าๆคนยังไม่มากมายก็จะเสร็จได้เร็วกว่า หรือถ้าหากไปสายหน่อยก็ชอบเสร็จก่อนที่จะมีการพักตอนเที่ยง