ซีรีย์ Netflix กระแสแรงบนโซเชียล ซีรี่ย์แนวกฎหมาย โรแมนติก ดราม่า

ซีรีย์ Netflix

ซีรีย์ Netflix กระแสแรงบนโซเชียล

ซีรีย์ Netflix   Enola Holmes 2 เอโนลา โฮล์มส์ 2 แม้กระนั้นสิ่งที่ภาคนี้ต่างออกไปก็คือ ตัวหนังมิได้เพียงแค่ปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเยาวชนชุด ‘The Enola Holmes Mysteries’ ที่เขียนโดย แนนซี สปริงเกอร์ (Nancy Springer) มาแบบตรงๆแต่ว่าได้แก่การใช้แรงดลใจจากจากเรื่องราว ผู้แสดง แล้วก็ส่วนประกอบนิดหน่อยจากในขณะที่ 2 ของชุดนิยายที่มีชื่อว่า ‘The Case of the Left-Handed Lady’ มาสร้างเกิดเรื่องราวขึ้นมาใหม่แทน ส่วนคณะทำงานก็พูดได้ว่ามากันแทบครบ อีกทั้งผู้กำกับ แฮร์รี กางรดเบียร์สด (Harry Bradbeer)

ที่ตอนนี้ขอควบตำแหน่งลงไปเขียนบทกับ แจ็ค โธรน (Jack Thorne) ด้วย โดยได้น้อง ไม่ลลี บ็อบบี บราวน์ กลับมานำแสดงและก็เป็นโปรดิวเซอร์และก็ผู้แสดงจากภาคแรกทั้งยัง เฮนรี คาวิลล์ (Henry Cavill) ในบทเชอร์ล็อก โฮล์มส์, ซูซาน โม้โกมา (Susan Wokoma) ในบท อีดิธ เฮเลนา บอนหมูแฮม คาร์เตอร์ (Helena Bonham Carter) ในบท ยูโดเรีย โฮล์มส์ แม่ของน้องเอโนลา, ลูอิส พาร์ทริดจ์ (Louis Partridge) ในบท ลอร์ดทิวส์เบอรี เสริมกองทัพด้วยดาราคนใหม่อีกทั้ง อาดีล แอคห์ตาร์ (Adeel Akhtar), ชารอน ดันแคน-บริวสเตอร์ (Sharon Duncan-Brewster) รวมทั้ง เดวิด ธิวลิส (David Thewlis)

จะเสียดายก็ตรงที่ แซม คลาฟลิน (Sam Claflin) ผู้ครอบครองบท มายคคอยฟต์ โฮล์มส์ เจ้าขุนมูลนายจอมจู้จี้ พี่ชายคนโตของเครือญาติโฮล์มส์ ที่มิได้มาในภาคนี้ด้วยด้วยเหตุว่าคิวงานชนถึงเวลาออกมากระทำการสุดท้ากับคดีใหม่ที่น่าดึงดูด ที่คราวนี้กลับมาด้วยการเจริญเติบโตของตน ความโหฬารในงานสร้าง รวมทั้งส่วนประกอบบทที่หนักแน่นเพิ่มขึ้น เปลี่ยนเป็นอีกหนึ่งหนังสืบสาวที่ยังคงมองบันเทิงใจและก็ได้โตไปพร้อมๆกับทุกนักแสดงอย่างอิ่มเอม

ตัวเรื่องของ ‘Enola Holmes 2’ นั้นกล่าวได้ว่าเกือบจะต่อจากภาคแรกเลย  ซีรีย์ Netflix   แล้วก็ไม่ต้องมานั่งปูเรื่องให้เสียเวล่ำเวลา (มันเลยเป็นเหตุผลที่ควรมองภาคแรกมาก่อนครับ) ในภาคนี้ น้อง เอโนลา (Millie Bobby Brown) โตเป็นสาวแล้ว ภายหลังที่ไขคดีแรกเสร็จ น้องก็เลยเลือกเป็นสายลับชนิดเดียวกันกับ เชอร์ล็อก (Henry Cavill) พี่ชายสายลับโด่งดัง จนกระทั่งขั้นเปิดที่ทำการสายลับเป็นของตนเอง แต่ว่าแปลงเป็นว่า

ทางอาชีพสายสืบรับจ้างของคุณนั้นไม่ใช้ว่าจะง่ายถางนัก จนถึงวันหนึ่ง สาวน้อยจากโรงงานไม้ขีดได้จ้างคุณให้ไปตามหาพี่สาวที่หายไป แถมยังไปเกี่ยวพันกับคดีการฆ่าอีก ตอนที่เชอร์ล็อกเองก็กำลังปวดศีรษะกับคดีคดโกงยักยอกทรัพย์ ทำให้เอโนลาและก็เชอร์ล็อกจำต้องออกเสี่ยงภัยไขคดีด้วยกันเป็นครั้งแรกเรื่องราวภายหลังจากพึ่งไขคดีแรกเสร็จ เอโนลา โฮล์มส์ ก็ดำเนินรอยตามเชอร์ล็อก พี่ชายมีชื่อของคุณ แล้วก็เปิดที่ทำการของตนเอง แต่พบว่าชีวิตสายสืบรับจ้างหญิงไม่ใช้ว่าจะง่ายเหมือนอย่างที่คิด

ซีรีย์ Netflix 
 

เมื่อทำใจสารภาพความเป็นจริงอันร้ายกาจสำหรับในการก้าวสู่วัยผู้ใหญ่ได้แล้ว คุณก็เลยตกลงใจเลิกกิจการลงทว่าสาวโรงงานไม้ขีดไฟคนยากจนคนหนึ่งมาว่าจ้างให้คุณช่วยตามหาพี่สาว คดีนี้ก็เลยเป็นงานแรกอย่างเป็นทางการของเอโนลา ซึ่งเชิญพิศวงมึนเกินคาดคิด และก็ทำให้เอโนลาจำต้องหลุดเข้าไปสู่โลกใหม่ที่แสนอันตราย ไม่ว่าจะเป็นโรงงานสุดโฉดแล้วก็โรงแสดงดนตรีสุดละลานตาในลอนดอน หรือสังคมคนชั้นสูง รวมถึงบ้านเลขที่ 221 บี ถนนหนทางเบเกอร์ ในตอนที่แผนคบคิดสุดอันตรายจุดชนวนให้คุณจำต้องวานเพื่อนพ้องๆแล้วก็เชอร์ล็อกมาช่วยไขคดี

เกมการพิสูจน์ก็เริ่มจะเข้าที่เข้าทางอีกรอบ‘Enola Holmes 2’ นั้นมีทิศทางที่เติบโตขึ้นอย่างแจ่มแจ้งนะ หากว่าตัวหนังเองจะยังคงรักษาชั้นเชิงในแบบอย่างของตัวหนังที่เป็นเอกลักษณ์เอาไว้ได้ อีกทั้งเสน่ห์ของน้องเอโนลา โฮล์มส์ แล้วก็การวางปัญหารหัสคดีในลักษณะต่างๆยกตัวอย่างเช่นการใช้ Anagram หรือการสับเปลี่ยนอักษรให้เป็นคำใหม่ หรือแม้กระทั้งฉากแอ็กชันเสี่ยงภัยที่นับว่าดุเดือดเลือดพล่าน

แล้วก็ทำให้ตัวหนังมีความสนุกสนาน เข้มข้น หรือแม้กระทั้งการพูดใจความสำคัญเกี่ยวกับความเป็นสตรีนิยม เพื่อนฝูงหญิงพลังหญิงที่ถูกเล่าผ่านเอโนลา ยูโดเรีย รวมทั้งเหล่าผู้หญิงที่จำต้องขับรวมทั้งเอาชีวิตรอดด้วยแนวความคิดแบบสตรีนิยม (Feminism) เอาชีวิตรอดในโลกที่ขับเคลื่อนด้วยอำนาจรวมทั้งมุมมองแบบผู้ช้ายเพศชาย และก็ Norm หรือบรรทัดฐานอนุรักษ์นิยมของกุลสตรีตามแบบฉบับผู้ดีอังกฤษไปให้ต้องได้

สิ่งที่ ‘Enola Holmes 2’ ต่างกันอย่างชัดเจนซึ่งก็คือ  ซีรีย์ Netflix   การขยายทุกอย่างอย่างให้เติบโตขึ้น หรือจะเรียกว่าเล่นใหญ่เล่นโตก็ได้ล่ะ เริ่มตั้งแต่การปรับโทนของพล็อตจากสไตล์วรรณกรรมเยาวชน ให้มีโทนของความเป็นนิยายแนวรหัสคดีสอบสวน แอ็กชัน แล้วก็หนังการฆ่าที่เป็นผู้ใหญ่ตั้งใจจริง รวมทั้งโหดเหี้ยมขึ้นกว่าเดิมซึ่งก็คล้ายคลึงเหมาะสมกับน้องเอโนลาที่เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ช่วงต้น เป็นเรียกว่าโยนน้องเข้าไปพบความไร้มนุษยธรรมของการเป็นผู้ใหญ่แบบเต็มกำลังคราวแรก แม้ว่าจะยังเป็นผู้ใหญ่ตอนแรกที่ยังแอบมีความเป็นยัยน้องกิงก่องแก้วที่แอบน่าตีอยู่นิดๆก็เถิด

แล้วมันก็สำเร็จพวงให้เรื่องราวรอบกายของเอโนลาใหญ่มหึมาขึ้น แข็งแรงขึ้น งานสร้างต่างๆที่ใหญ่ขึ้นกว่าภาคแรกอย่างชัดเจน ซึ่งมันก็สำเร็จจากการที่ภาคแรกได้ชี้แจงภูมิหลังเกี่ยวกับบ้านโฮล์มส์ และก็บรรยากาศของอังกฤษสมัยโบราณไปแบบเบ็ดเสร็จหมดแล้ว ตัวหนังภาคนี้ก็เลยย้ำดำเนินเรื่องเร็วฝ่าๆแบบไม่ต้องคุยให้เสียเวล่ำเวลามากสักเท่าไรนักซึ่งผู้กำกับรวมทั้งกลุ่มเขียนบทเองก็นับว่าเฉลี่ยวฉลาดด้ามจับจุดที่ตรงนี้ได้ถูก รวมทั้งรู้ที่ทางในการวางแผนภูมิเรื่องด้วยการขยายขนาดเรื่องราวออกไปไกล

รวมทั้งเขย่าผสมรสที่นานาประการปะปนได้ออกมาหรรษาได้อย่างตลอดรอดฝั่งเอโนลา โฮล์มส์ ก็ยังคงเป็น เอโนลา โฮล์มส์ ความสนุกสนานร่าเริงรวมทั้งเชิงชั้นยังคงแงะเอามาใช้เพื่อสำหรับการเล่าที่ทำให้เป็น 2 ชั่วโมงที่เต็มไปด้วยการพิสูจน์ที่สนุกสนานเอาการเหมือนเคย โดยหนังภาคนี้ไม่ต้องมาเสียเวล่ำเวลามาปูทางปูเรื่องอะไรก็แล้วแต่อีกต่อไป ก็เลยเริ่มรวมทั้งมีทิศทางที่กระชับฉับไว และก็เข้าที่เข้าทางค่อนข้างจะไปอย่างเร็ว รวมทั้งเข้าเรื่องของเรื่องได้แบบทันการ

 

All Quiet on the Western Front แนวรบทางด้านตะวันตก สถานะการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง

ภาพยนตร์การสู้รบน้ำดีนานๆจะมีครั้ง ผลงานจากประเทศเยอรมนีภายใต้ทุนสร้างของ Netflix ภาพยนตร์หัวข้อนี้เป็นการรีเมกครั้งที่ 2 ซึ่งเรื่องแรกที่ฯลฯฉบับออกฉายในปี 1930 ต่อจากนั้นมีการรีเมกครั้งแรกในปี 1979 และก็คราวนี้เป็นครั้งที่ 2 ภาพยนตร์ประเด็นนี้จะพาผู้ชมไปติดตามเรื่องราวของ Paul Bäumer (สวมบทบาทโดย Felix Kammerer) ผลทหารชายหนุ่มชาวเยอรมัน เขาแล้วก็เพื่อนฝูงๆแถวบ้านได้ไปร่วมในสงครามโลกครั้งที่ 1 ข้างหลังจบจากสถานศึกษาจัดแจงทหาร เหล่าทหารชายหนุ่มที่ฮึกเฮิมพร้อมออกศึก

แต่ว่าเมื่อไปพบสนามรบจริงๆก็เลยทราบว่ามันมิได้น่าภาคภูมิเหมือนอย่างที่คิดไว้ตอนต้น ในที่สุดแล้วทหารกลุ่มนี้จะได้พบเห็นประสบการณ์อะไรบ้างในสนามรบบ้างนั้น ทุกคนจำเป็นต้องไปรับดูด้วยตาตนเองเรื่องราวของชายหนุ่มอายุ 17 พอล บาวเมอร์ (Paul Bäumer) (เล่นบทโดย Felix Kammerer) และก็เพื่อนร่วมรบต่างตื่นเต้นไปกับการร่วมรบ แต่ว่าเมื่อพวกเขาได้เข้าไปเผชิญสถานะการณ์จริง ก็ได้ตระหนักถึงความรู้สึกกลัวรวมทั้งท้อแท้กับการรบที่พรากชีวิตมนุษย์ที่จำต้องดิ้นรนขวนขวายเพื่อรักษาตัวเองให้รอดในสนามเพลาะ

หนังสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งไม่ค่อยมีทำออกมาบ่อยมากพอๆกับครั้งที่ 2 แล้วประเด็นนี้ก็เป็นมุมมองของทหารเยอรมันในวัยชายหนุ่ม ที่มิได้ถูกหลักเกณฑ์ไปรบ แต่ว่าสมัครใจไปรบเองโดยบิดามารดาก็มิได้ยอม พร้อมทั้งกลุ่มเพื่อนสนิทคนไม่ใช่น้อยที่ฮึกเหิมรู้สึกว่าการไปรบกลับมาได้เป็นวีรบุรุษ ก่อนจะเจอกับน่าสะพรึงกลัวของการรบของแท้ ซึ่งเอาจริงเอาจังๆหนังสงครามโลกครั้งที่ 1

พล็อตเค้าเรื่องอย่างนี้มิได้ใหม่  ซีรีย์ Netflix   และเกือบจะเป็นสูตรสำเร็จของหนังสงครามเลยก็ได้ที่นักแสดงจากสังคมโลกธรรมดาจำต้องไปอยู่ท่วมกึ่งกลางการรบที่คนฆ่ากันเสมือนแดนนรก โดยเกือบจะไร้เหตุผลสำคัญอะไรเลย เพราะเหตุว่าสงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นการรุกรานกันเพื่อแก่งแย่งดินแดนเป็นหลัก ทำให้ตามที่ต้องการของผู้มีอิทธิพลตอนนั้น ไม่ใช่การทำศึกแบบที่มีเหตุมีผลที่มาลึกสลับซับซ้อนแบบการสู้รบในตอนนี้

เรื่องราว เอ๋ยถึงความน่าขนลุกของสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เหล่าประชาชนได้ถูกมาตรฐานไปเป็นทหาร แล้วได้ศึกษาค้นพบสัจจะธรรมในการศึกนั้น ล้วนเป็นเพียงแต่เรื่องที่พรากชีวิตคนเราไปอย่างไม่มีประโยชน์ พรากความเป็นคนให้หลุดลอยหายไป เป็นหนังต้านทานการทำศึกที่สะท้อนถึงผลการะทบที่เกิดขึ้นทั้งยังในด้านร่างกายและจิตใจของเหล่าทหาร ต่างจะต้องพบเจอความทารุณในการสู้รบ ซึ่งส่วนนี้ที่ผู้กำกับเล่าออกมามองเห็นมองเห็นได้อย่างยอดเยี่ยมและก็สามารถเย้ายวนใจผู้ชมให้พึงพอใจการเล่าเรื่องไปหนัง

ซึ่งตัวบทเองก็อาจจะราวกับรู้ดีว่าถ้าเกิดพรีเซ็นท์ที่ตรงนี้ไปก็คงจะไม่มีความต่างมากมาย ตัวเรื่องก็เลยรีบเล่าแบบผ่านกระโจนไปเลยจากการรบหนแรกที่โผล่มานิดเดียวเปลี่ยนเป็นเวลาต่อจากนั้น 18 เดือน ผู้แสดงนำในเรื่องเปลี่ยนเป็นทหารที่ดำเนินชีวิตอย่างงี้สุดกำลังกระทั่งเกือบจะเคยชินและก็ได้ แต่ว่าตัวเรื่องก็เสมือนเขียนบทมาไม่ค่อยมีความก้าวหน้าตามจริงเท่าไร เพราะว่านิสัยส่วนตัวแนวรักสนุกมักจะทำอะไรเสี่ยงๆก็ยังคงอยู่ อย่างการไปลอบลักขโมยของกินของประชาชนมากิน การคุยกันที่ย้ำขบขันกันในกรุ๊ป

เป็นบางครั้งก็อาจจะรู้เรื่องว่าเป็นการบรรเทาเพื่อไม่ให้เครียดจากการพักรบก็ได้ แต่ว่าตัวเรื่องกลับราวกับฟรีซนิสัยของกรุ๊ปตัวนำทั้งผองไว้แบบตอนต้นที่ร่วมรบ ราวกับกลุ่มวัยรุ่นทะความนิ่งฮึกเหิมไม่แปรไปเลยอยู่ดี เพียงแค่มีความมั่นใจและความเชื่อมั่นสำหรับในการรบมากเพิ่มขึ้นกว่าฉากแรกที่ชี้ให้เห็นว่าการรบน่าสะพรึงกลัวมากแค่ไหนเพียงแค่นั้น แต่ว่าบทก็เขียนให้มีการลังเลจะฆ่า หรืออยู่ๆก็ใจอ่อนช่วยผู้ที่ลงมือจะฆ่าไปเมื่อกี๊ก็มี เรียกว่าเป็นบทที่ชักชวนให้งงงวยไม่น้อยว่าเรื่องจะสื่ออะไรกันแน่ หากแม้พวกเราจะได้เห็นภาพรวมของเรื่องการรบว่าขาดความกรุณาปรานีตามที

ดังที่ตัวหนังบอกข้อมูลไว้เป็น 3 ล้านคนกับจุดนี้จุดเดียว ซีรีย์ Netflix   ซึ่งเป็นเสี้ยวหนึ่งของประวคิศาสตร์ที่เหี้ยมโหดมากมาย โดยเรื่องจะสลับสถานะการณ์ของกรุ๊ปตัวนำทหารชายหนุ่มตัดมาที่นักแสดงนายพลที่คุมกำลังจุดนี้ และมีกลุ่มสนทนาหยุดการทำศึกที่พร้อมจะยอมยกธงขาวอยู่แล้ว แม้กระนั้นนายพลกลับกีดกั้นหรือถ่วงเวลาไม่ให้มันเกิดขึ้นกระทั่งทหารตรงนี้ตายกันเยอะแบบมิได้คุณประโยชน์ในทางการรบเลยแม้กระทั้งหน่อยเดียว

(รบอยู่ 3 ปีไม่สามารถที่จะก้าวหน้าไปไหนได้เลยจากหลุมเพลาะที่ขุดไว้) ซึ่งตัวเรื่องใช้การเดินเรื่องเรียบกับบทสำหรับพูดส่วนนี้ที่เสมือนผู้มีอิทธิพลรับทราบการถึงแก่กรรมของทหาร แม้กระนั้นไม่ใส่ใจ เดินหน้าทำศึกสงครามถัดไปจนกว่าวินาทีในที่สุด แล้วหลังจากนั้นก็ลอยตัวอยู่เหนือปัญหากับความรับผิดชอบข้างหลังจบการรบด้วย เพื่อผู้ชมรู้สึกช้ำใจกับต้นเหตุของประเด็นนี้ที่เป็นข้อมูลจริงทางประวัติศาสตร์ที่น่าเสียใจจริงๆ

 

The Takeover เดอะ เทคโอเวอร์

หนังอาชญากรรมไซเบอร์ที่บางทีก็อาจจะอยู่นอกสายตาผู้ชมด้วย เพราะเหตุว่าทั้งยังผู้แสดงแล้วก็โปรดักชั่นต่างไม่ค่อยมีชื่อสักเท่าไหร่ แม้กระนั้นบังเอิญว่า..หนังมองออกจะบันเทิงใจแล้วก็ย่อยง่ายพอได้ใน “The Takeover” หนังออริจินัลที่มีเชื้อชาติเนเธอร์แลนด์แบบ 100% หากว่าโครงเรื่องจะค่อนข้างจะสูตรสำเร็จ แต่ว่าเป็นสิ่งที่ซ้ำซากจำเจที่เชิญชวนเพลิดเพลินได้อยู่

หนังจากเนเธอแลนด์ ของ Netflix แนวทริลเลอร์ มีบรรยายไทย เรื่องของแฮ็กเกอร์สาวที่บากบั่นทวงความเที่ยงธรรมให้สังคมโดยการเป็นไวท์แฮ็กเกอร์ (ข้างดี) จนถึงพบป้ายสีโดยวิดีโอดีฟเฟคปลอมตัวบริเวณใบหน้าให้คุณเป็นคนร้าย กระทั่งตำรวจไล่ล่าตามจับ คุณก็เลยต้องตามล่าใส่ความจริงว่าคนใดเป็นคนบงการประเด็นนี้ทั้งสิ้นเมล แบนดิสัน แฮ็กเกอร์ผู้มีความดีงามขวางการฝ่าฝืนข้อมูลในรถเมล์สุดไฮเทคที่เคลื่อนอัตโนมัติ คุณดันทำให้โครงข่ายผู้กระทำผิดกฎหมายระดับโลกล่มโดยไม่ได้ตั้งใจ ชีวิตของเมลจำต้องกลับจากหน้ามือเป็นหลังมือเมื่อคุณถูกกล่าวหาว่าฆ่าคนในขณะที่คุณมิได้ทำ

คุณจำต้องหลบซ่อนจากการตามล่าของอีกทั้งผู้กระทำผิดกฎหมายแล้วก็ตำรวจสากลในเมืองที่มีกล้องวงจรปิดทั่วทุกมุมถนน คุณก็เลยไปซ่อนตัวอยู่กับผู้ที่คุณเคยนัดพบด้วยกาลครั้งหนึ่งอย่าง โธมัส ดีน รวมทั้งทำให้เขาจำต้องตกกระไดพลอยโจนเข้ามาพันพัวกับการไล่ล่านี้ไปด้วย เมลมานะออกตามหาสมัยก่อนที่ปรึกษาที่ชื่อ บัดดี้ เบนซ็อต ผู้ซึ่งจะมาช่วยพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้กับคุณภาพยนตร์ประเด็นนี้เริ่มด้วย Mel Bandison วัย 16 ปี ที่เจาะระบบปฏิบัติการทางการทหารเพื่อปกป้องเสียงเจ็ท แฮ็กเกอร์รุ่นเยาว์โดนจับโดยบัดดี้

ซึ่งเป็นนักเทคโนโลยีมือโปรอีกคน ซึ่งแลเห็นอัจฉริยะด้านการเข้ารหัสที่สุดยอดในตัวคุณ ซีรีย์ Netflix   ยาวนานหลายปีถัดมา เมลกลายเป็นโรบิน องค์การอนามัยโลกดออนไลน์ที่เชี่ยวชาญ ซึ่งเผยโฉมบุคคลแล้วก็หน่วยงานที่คดโกงในตอนที่โอนเงินไปยังที่มาเริ่มแรกของพวกเขา วันหนึ่งขณะที่ทำงานช่วงเวลากลางวัน คุณเจอจุดบกพร่องแบบสุ่มในรถบัสที่เคลื่อนโดยระบบจำบริเวณใบหน้า และก็บล็อกมันโดยทันทีด้วยม้าโทรจัน คุณออกเดทกับเพศชายที่ชื่อโทมัส โดยไม่เคยรู้จริงๆ

เกี่ยวกับผลพวงของความประพฤติของคุณ ท้ายที่สุด ผู้ร้ายที่อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังแมลงก็ทำให้จุดหมายในชีวิตของพวกเขาเป็นการฆ่ารวมทั้งทำให้เสียหายความโด่งดังของ Mel ไปชั่วชีวิตของคุณ ดังนี้ก็เลยทำให้แฮ็กเกอร์จำต้องแข่งกับเวลาแล้วก็เผยส่วนประกอบที่จริงจริงเบื้องหน้าเบื้องหลังการปฏิบัติการทั้งปวง ในตอนนี้ เมลจะบรรลุความสำเร็จในภารกิจของคุณไหม? คำตอบนั้นออกจะเด่นชัดถ้าเกิดคุณดูหนังแนวนี้มามากพอแล้ว ในตอนแรก เค้าเรื่องของภาพยนตร์ที่แฮ็กเกอร์กำลังวิ่งอยู่นี้ฟังดูเหมือนกับว่าหนังตื่นเต้นการเข้ารหัสทั่วๆไปของคุณ

ซีรีย์ Netflix 

โดยมีวิถีธรรมดาของเหตุ แต่ว่าหากดูให้ลึกลงไปคุณจะพบว่ามันเป็นแบบงั้นจริงๆมีแฮ็กเกอร์ที่มีความชำนาญพิเศษ ร่างที่เสมือนบิดาซึ่งชะตาชีวิตถูกผนึกไว้แล้ว แล้วก็ชายที่ไม่รู้เรื่องเลยว่ามีความเกี่ยวข้องอะไรก็แล้วแต่หนังดัชต์ที่พวกเราบางครั้งอาจจะมิได้รู้จักสักเท่าไหร่ นี่ได้ผลงานของผู้กำกับหญิง “แอนมารี แวน เดอ มอนด์” ที่ชอบเด่นกับการผลิตหนังเชิงชมรมเป็นส่วนมาก แม้กระนั้นคราวนี้มาจับจับสร้างภาพยนตร์แอคชั่นทริลเลอร์ที่มีสตรีแสดงนำดูบ้าง พร้อมทั้งงานโปรดักชั่นที่มีความสากลดี จะต้องสารภาพว่าทำออกมาค่อนข้างจะถูกใจ แม้ว่าจะเข้าขั้นที่ปกติ และไม่ได้แปลกใหม่อะไรสักเท่าไหร่เลย

เสมือนเป็นการประสมประสานหนังแนวๆนี้หลายเรื่องของฮอลลิวูดมายำเอาไว้ จับส่วนประกอบโน่นนี่มาประกอบร่างขึ้นมา กับบทหนังที่ไม่ค่อยจะหนักแน่นอะไรเลย หนังเกือบจืดชืดสนิทไปแล้ว หากไม่มีพวกฉากไล่ล่ากับลีลาท่าทางวิธีการแบบแฮกเกอร์มาเสริม เป็นหนังที่เกือบมีเชิงชั้นและก็ยังไม่แยบยลสักเท่าไหร่ยังดีที่แนวทางการเล่าเรื่องของหนังประเด็นนี้ค่อนข้างจะกระชับดีอยู่ เล่าได้วับไวแล้วก็เข้าเรื่องได้ง่ายๆ บางทีก็อาจจะเนื่องจากหนังมีความยาวไม่ถึง 90 นาทีด้วย ทำให้อะไรๆก็ค่อนข้างจะไปได้ไวว่อง

แต่ว่าก็ยังมีช่วยเอือยๆมาเหนี่ยวรั้งตัวหนังเอาไว้นิดเดียว โชคดีที่จังหวะของหนังยังช่วยเกื้อหนุนเอาไว้ได้ตลอดทางได้ด้วยดี ด้วยการปรับปรุงแก้ไขเหตุการณ์ที่พอใช้ได้เพลิดเพลินๆด้านการแสดงที่พวกเราบางครั้งก็อาจจะมิได้รู้จักกับดาราชาวฮอลันดาเท่าใด แต่ว่าก็นับว่าพวกเขาถ่ายทอดออกมาได้ตามมาตรฐาน ยังไม่ใช่การแสดงที่ดีแต่ก็มิได้ห่วยแตกอะไร “ฮอลลี่ เมย์ บรู๊ด”

ที่จำเป็นต้องมาแบกรับหนังอีกทั้งเรื่องเอาไว้ แม้กระนั้นคุณก็แทบจะหามผู้เดียวไม่รอด ยังดีที่มีนักแสดงสมทบคนอื่นมาช่วยไว้ ไม่ว่าจะเป็น “เคซา ไวสซ์” หรือ “ฟรังก์ ลุกลามเมอร์ช” ที่เป็นส่วนเสริมที่ช่วยผนึกกำลังกันด้านการแสดง ส่วนนี้ก็ปกติมากมายๆเช่นเดียวกัน ผู้ที่แสดงเจริญที่สุดในเรื่องก็คงจะเป็นตัวนางเอกนี่แหละ การแสดงของคุณยังอยู่ในกฏเกณฑ์ที่ดีแล้วก็พอเพียงจะหามหนังไว้ได้ (นิดเดียว) ส่วนดาราคนอื่นในเรื่องก็แสดงได้ตามมาตรฐานทั่วๆไป ตัวร้ายก็ปราศจากความน่าสยองเลย แถมตอนแพ้ก็แพ้ง่ายอย่างยิ่งๆเสมือนคิดจะจบก็จบ

 

Guillermo del Toro’s Cabinet of Curiosities

ตู้เลข 36 Lot 36 ผลงานของผู้กำกับ Guillermo Navarro (Hannibal 2013-2015, Narcos 2015) เขียนบทโดยผู้ผลิตซีรีส์ชุดนี้ กีเยร์โม เดล โตโร ร่วมกับเรจีน่า คอร์ราโด ซึ่งได้แรงผลักดันมาจากประสบการณ์ที่เดลโตโรเจอมาเอง ในซีรีส์บอกเล่าเรื่องราวของ นิค (สวมบทโดย ทิม เบลก เนลสัน) ทหานที่เคยผ่านการรบ ที่มีอาชีพประมูลโรงเก็บของ ที่ผู้ครอบครองมิได้ทำธุรกรรมกริ้วยะเวลาหนึ่งโดยบางครั้งอาจจะเสียชีวิตหรือย้ายบ้านทำให้ติดต่อมิได้ ในโรงเก็บของบางทีอาจเก็บทรัพย์สินล้ำค่า หรือเพียงแค่ข้าวของที่มีคุณค่าทางจิตของผู้สะสมเพียงแค่นั้น

คนประมูลไม่บางทีอาจทราบได้เลยว่าการประมูลจะคุ้มขนาดไหน แต่ว่าในตู้เลขลำดับ 36 นี้นิคได้เกินกว่าที่คาดหวัง จุดแข็งของ Lot 36 เป็นเรื่องราวแปลกใหม่ น่าติดตาม ทายใจทางมิได้ อาชีพประมูลโรงเก็บของน่าดึงดูด เล่าได้หลอน จนกระทั่งต้องการรู้จะเป็นเยี่ยงไรถัดไป CG เอฟเฟกต์ปฏิบัติดี มองเหมือนจริงมีความน่าขนลุก ภาพแสงสี ไฟกระพริบทำลุ้นตลอด ดาราทิม เบลก เนลสันแสดงดี โดยรวมความหลอนความสยดสยองอยู่ในระดับปานกลางหนูในป่าช้า Graveyard Rats ผลงานของผู้กำกับ Vincenzo Natali

ผู้ครอบครองผลงานภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง Cube (1997) แล้วก็ Splice (2009) ซีรีย์ Netflix   บอกเล่าเรื่องราวของแมสสัน (สวมบทบาทโดย เดวิด ฮิวเลตต์) คุณลุงเฝ้าหลุมฝังศพที่มีหนี้หลายชิ้น ก็เลยหารายได้ด้วยการเปิดโรงศพผู้เสียชีวิตเพื่อหาสินทรัพย์มีค่า ดังเช่นเครื่องเพชรพลอยที่ฝังรวมไปกับคนตายอย่างฟันทองคำ หรือแหวนเพชร ฯลฯ แต่ว่าแล้วปัญหาหลักของเขาเป็นหนู สัตว์ร้ายที่รับประทานทั้งหมดทุกอย่าง หัวข้อนี้บอกเลยแล้วก็ความสยองขวัญ น่าสะพรึงกลัว กรีดร้องผวากรี๊ดเอาไว้ในเรื่องเดียว ดูแล้วน่ารังเกียจหนูมากมาย (มีมากยิ่งกว่าหนึ่งตัว) แต่ว่าสนุกสนาน ผวาหลายซีน ลุ้นแล้วลุ้นอีก ลุ้นตลอดว่าแมสสันจะรอดไหม

ตื่นเต้น ขนลุก เชิญสยดสยองชันสูตรพลิกศพ The Autopsy ผลงานของผู้กำกับ David Prior ผู้กำกับเรื่อง The Empty Man (2020) สร้างขึ้นมาจากนิยายชื่อเดียวกันของไมเคิล เชบอกเล่าเรื่องราวการตามหาตัวฆาตกรโรคจิต และก็ที่มาของการฆาตกรรมผ่านการชันสูตรวินิจฉัยศพของดร. คาร์ล วินเทอร์ (สวมบทบาทโดยเอฟ. เมอร์รีย์ เอบราฮัม ) ที่ทำออกมาได้มองเหมือนจริง ชูความดีความชอบให้กลุ่มเอฟเฟกต์ พรีเซ็นท์การหาสิ่งที่ทำให้เกิดการตายจากการชันสูตรพลิกศพได้น่าดึงดูด สยดสยองไม่น้อย

ระหว่างลุ้นระทึกกับการผ่าล้วงล้วงอวัยวะภายใน ก็มีเสียงเปิดปิดประตู เสียงก๊องแก๋งที่ทำใจตุ้มๆต่อมๆพอได้ เตือนไว้ก่อนคนใดกันที่กลัวเลือดและไม่ถูกใจมองเห็นองค์ประกอบอวัยวะภายใน บางครั้งก็อาจจะจำเป็นต้องขอผ่านหัวข้อนี้รูปลักษณ์ภายนอก The Outside ผลงานของผู้กำกับ Ana Lily Amirpour (A Girl Walks Home Alone at Night, 2014) บอกเล่าเรื่องราวของสเตซี่ (สวมบทโดย เคท มิคุชชี) สาวแบงค์ที่น้อยใจในรูปภาพลักษณ์ของตัวเอง ทำให้ยังคลุมเคลือและไม่มีเพื่อนฝูง เมื่อได้ทราบจะกับโลชั่นอโลโกล คุณไม่รอคอยช้าที่จะใช้มัน

ซีรีย์ Netflix 

ถึงแพ้จนถึงเป็นผื่นคะเยอก็ยังคงใช้มันถัดไป ประเด็นนี้มองไปลุ้นไปตลอดว่า สเตซี่จะงามขึ้นไหม นางเอกมองจิตมากมายตั้งแต่แรกเลย ในช่วงเวลาที่คุณได้ยินเสียงในบ้าน ถึงกับถือขวานเดิมตากล่าวหาผู้ใดกันแน่รุกล้ำบ้านหรือไม่ โห!! เมืองมันน่าสยองถึงขั้น จำเป็นต้องถือขวานเลย?? สาวเคทแสดงดี ดูแล้วรู้สึกคัน แพ้ต้องการเกาตามไปด้วยเลย ในเรื่องถูกใจค้างแรกเตอร์คีทผัวของสเตซี่ (สวมบทบาทโดย มาร์ติน สตาร์) เป็นผัวสุดที่รักเมียแบบไม่มีเงื่อนไขแล้วก็รู้เรื่องตัวตนของเมีย รอซัพเพียงพอร์ทคุณตลอด

ดารานางแบบของพิคแมน Pickman’s Model  ซีรีย์ Netflix  ผลงานของผู้กำกับ Keith Thomas (The Vigil, 2019) ดัดแปลงแก้ไขมาจากเรื่องสั้นของนักประพันธ์ เอช. พี. เลิฟคราวฟท์ (H.P. Lovecraft) บอกเล่าเรื่องราวของ วิลเลี่ยม คุณร์เบอร์ หรือวิล (รับบทบาทโดย เบน บาร์นส์) นิสิตศิลป์ที่มีพรสวรรค์ประเด็นการวาดภาพ ภายหลังวิลได้ได้ผลงานภาพวาดแนวสะเทือนใจเรื่องความตายและก็วิญญาณของเด็กนักเรียนคนใหม่ ริชาร์ด พิกแมน (สวมบทโดย คริสพิน โกลเวอร์)

ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือ  hubbet69  เขาจำต้องพบเห็นกับเรื่องแปลกและก็สยองขวัญต่างๆมากไม่น้อยเลยทีเดียว เปลี่ยนเป็นกลัว จนถึงจำเป็นต้องพึ่งสุรายอมดวงใจรวมทั้งดำรงชีวิตอย่างทุกข์ยาก ประเด็นนี้ภาพวาดมองหลอน สยดสยอง ติดตา น่าสยดสยอง เรื่องราวเป็นแถวย้อนยุคในปี1800 เดินเรื่องเรื่อยเชิญง่วงหงาวหาวนอนอยู่บ้าง แสงสีเสียงเชื้อเชิญหลอนรวมทั้งน่าสะพรึงกลัวระดับปานกลาง

ความฝันในบ้านแม่มด Dreams in the Witch House ผลงานของผู้กำกับ Catherine Hardwicke (Thirteen 2003 , Twilight 2008) ปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงมาจากเรื่องสั้นของคนเขียน เอช. พี. เลิฟคราวฟท์ (H.P. Lovecraft)ผ่านปลายปากกาของคนเขียน ไม่กา วัตรับประทานส์ บอกเล่าเรื่องราวของวอลเตอร์ กิลแมน (สวมบทโดย รูเพิร์ท กรินท์ หรือ รอนจาก Harry Potter)

ผู้ชายที่สูญเสียพี่สาวแฝดไปเมื่ออายุ 12 ปี ส่งผลให้เขาเศร้าใจแล้วก็ยังคงยึดติดกับการสิ้นไปนั้น  ซีรีย์ Netflix   ก็เลยบากบั่นหาทางผ่านไปยังโลกหลังความตาย เพื่อหาทางฟื้นคืนชีพให้พี่สาวเรื่องราวย้อนยุค ประเด็นการตามหาโลกหลังความตายในบ้านเก่าๆป่ารกร้าง เงื่อนเรื่องน่าดึงดูด ภาพแสงสีมัวดำสนิท เพดานราขึ้น กำแพงเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนเขียน ป่าเต็มไปด้วยรากต้นไม้ เถาวัลย์ เชิญสยดสยองน่าติดตาม